การประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์
สมัยสามัญ สมัยที่ 1 ครั้งที่ 7 ประจำปี 2563

            เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ สมัยสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี 2563 โดยนายเสนีย์ เอกบุตร ประธานสภาดำเนินการประชุม ผู้เข้าประชุมประกอบด้วยฝ่ายบริหาร สมาชิกสภาฯ และหัวหน้าส่วนราชการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ระเบียบวาระหัวข้อการประชุมที่สำคัญในวันนี้ เป็นข้อสอบถาม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ในเรื่องมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาโรคระบาดเชิ้อไวรัสโควิท 19 ของจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยนายเกรียงศักดิ์ พันธ์โกฏิ ส.อบจ. เขตอำเภอเมือง อภิปรายว่า ในฐานะที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ มีความวิตกกังวลและมีความเป็นห่วงประชาชนในการดำรงชีวิตประจำวันที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิท 19 นี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ได้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิท19 ไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย มีผู้ติดเชื้อไวรัสและเสียชีวิตจำนวนมาก ดูๆแล้วตอนนี้เหมือนกับเกิดสงครามเชื้อโรคขึ้นในโลกนี้ บุคลากรทางการแพทย์ทั้งหลายเป็นนักรบที่ต่อสู้เพื่อหยุดยั้งเอาชนะเชื้อโรคเพื่อให้ทุกคนปลอดภัย โดยใช้อาวุธคือเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น ยารักษาบรรเทา หน้ากากอนามัย น้ำยาฆ่าเชื้อ เจลล้างมือ ชุดป้องกันเชื้อเป็นต้น แต่ในปัจจุบันอุปกรณ์เหล่านั้นกลับขาดแคลนประชาชนไม่สามารถจะหาซื้อมาป้องกันตนเองได้ ถึงมีก็ราคาแพงมาก รวมแม้กระทั้งในโรงพยาบาลต่างๆก็ขาดแคลนด้วย จึงเป็นผลให้นายกสั่งย้ายด่วนอธิบดีกรมกดารค้าภายใน มาประจำสักนายกฯ ประชาชนในจังหวัดกาฬสินธุ์มีความวิตกเนื่องจากขาดข้อมูลของผู้ติดเชื้อและการควบคุมผู้ติดเชื้อในแต่ละพื้นที่ จึงได้เรียนถามผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ว่า 1. ปัจจุบันในจังหวัดกาฬสินธุ์ของเราผู้ติดเชื้อโควิทจำนวนกี่คน อยู่ที่ไหนบ้าง 2.เราจะมีวิธีป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อโควิทนี้อย่างไร 3.เมื่อติดเชื้อแล้วจะปฏิบัติตนอย่างไร ซึ่งหลายปีผ่านมาเชื้อโรคเกิดกับไก่ หรือนำไก่ไปกำจัด แต่ตอนนี้เกิดกับคนจะทำอย่างไรสภา อบจ.กาฬสินธุ์ ได้รับเกียรติจาก ดร.สม นาสะอ้าน รองนายแพทย์สาธารณะสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ เดินทางมาตอบข้อสอบถามด้วยตนเองต่อสภาฯ ว่า สถานการณ์ในปัจจุบันนี้ เชื้อโรคได้แพร่กระจายออกไปแล้วเกือบ 30 ประเทศ มีผู้ติดเชื้อจำนวน 173,974 คน เสียชีวิตแล้วจำนวน 7,171 คน ส่วนมากจะอยู่ในประเทศ จีน อิตาลี อิหร่าน ที่เสียชีวิตมาก ประเทศไทยของเรามีผู้ติดเชื้อในจำนวนหลักร้อย ซึ่งรัฐบาลมีมาตรการป้องกันคัดกรอง ควบคุม รักษา อย่างรัดกุม ส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ของเรา ณ ปัจจุบันยืนยันไม่มีผู้ป่วยจากเชื้อโควิท 19 เลย มีการตรวจคัดกรองบุคคลที่เดินทางมากจากประเทศ หรือพื้นที่กลุ่มเสี่ยงอย่างละเอียด หากมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ หรือมีอาการ ไอ จาม เจ็บคอ หอบ เหนื่อย ทีมป้องกันโรคจังหวัดกาฬสินธุ์ จะนำผู้สงสัยเข้าตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล ใช้เวลา 6 ชั่วโมงรู้ผลว่าติดเชื้อหรือไม่ ณ ตอนนี้จังหวัดกาฬสินธุ์มีผู้สงสัยเข้าเกณฑ์ จำนวน 19 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ 18 ราย และรอผลอีก 1 ราย มีผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงกลับบ้านจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 73 ราย ได้ติดตามกักกันให้อยู่บ้าน ไม่น้อยกว่า 14 วัน ผ่าน 14 วัน แล้ว 34 ราย ยังไม่ถึง 14 วัน 27 ราย และผู้ที่มาจากกลุ่มประเทศระบาดต่อเนื่อง จำนวน 64 ราย ผ่าน แล้ว 29 ราย เหลืออีก 32 ราย รวมผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ จำนวน 134 ราย ตอบข้อ 2 ในการป้องกันตัวเองให้ปลอดจาการติดเชื้อ ต้องไม่ไปอยู่ในสถานที่เสี่ยงต่างๆที่มีคนแออัดจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาด งานรื่นเริง การอบรมประชุมที่มีคนเกิน 50 คนขึ้นไป หากจำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยที่มีมาตรฐานป้องกันเชื้อได้ เช่น หน้ากาก เอ็น 95 หน้ากากฟ้า หน้ากาก 3 เอ็ม หรือทดสอบมาตรฐานหน้ากากอย่างง่ายโดยจุดเทียนและเป่าลมผ่านหน้ากากอนามัย ว่าเปลวเทียนดับหรือไหวหรือไม่ ส่วนหน้ากาก ที่ขาดแคลนตอนนี้ก็มีมาจากหลายสาเหตุ เราก็รณรงค์การเย็บหน้าใช้เองเพื่อป้องกันตัวเองในเบื้องต้นก่อน อย่างที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีโครงการอบรมครู ก.ในการจัดทำหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนของจังหวัดกาฬสินธุ์ไปแล้วนั้น เป็นสิ่งที่ดีมาก จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ดำเนินการคัดกรองผู้ป่วยที่มีอาการต้องสงสัยตามสถานพยาบาลในจังหวัด มีการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน หมู่บ้านโดย อสม. ร่วมกับผู้นำชุมชน หมู่บ้านออกเคาะประตูบ้านมาตั้งแต่วันที่ 12มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2563 ปัจจุบันไม่มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อเลย ทุกโรงพยาบาลได้เตรียมห้องสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิท 19 มียา เวชภัณฑ์ พร้อม มั่นใจว่าตอนนี้จังหวัดกาฬสินธุ์เราเอาอยู่ หากมากกว่านี้เราเตรียมโรงพยาบาลสนามไว้แล้ว ช่วงนี้ประกาศให้ชุมชนงดงานรื่นเริงต่าง ๆ ปิดสถานศึกษา งดการประชุมทุกเรื่อง ใช้วีดีโอคอนเฟอร์เรนท์ แทน ใช้กฎหมายควบคุมการระบาดของโรคมีโทษทั้งจำทั้งปรับ และมีสมาชิกสภาหลายคนยังเป็นห่วงและสงสัยอยู่ว่า หากมีการระบาดมาก จะมีบุคลากรทางการแพทย์เพียงพอหรือไม่ หากเชื้อลงในห้วยหนองคลองบึงจะติดต่อได้หรือไม่ ค่าตรวจค่ารักษาจำนวนเท่าไหร่ มาตรฐานในการรักษาของแต่ละสถานพยาบาลเป็นอย่างไร คนที่ติดแล้วจะมีภูมิคุ้มกันหรือไม่ ได้รับคำตอบจาก ดร.สม นาสะอ้าน ว่า หากมีผู้ติดเชื้อเพียง 10 คน บุคลากรทางการแพทย์ในจังหวัดเรามีไม่เพียงพอ เพราะต้องใช้ 10 คน ต่อผู้ป่วย 1 คน และต้องสวมชุดป้องกันเชื้อได้นานที่สุด 4 ชม. ใช้ 3 ชุดต่อ 1 วัน หากคนไข้มากจริงๆต้องรวมคนไข้ห้องละ 30 คน ส่วนแมสมีอยู่ 3 แสนชิ้น ใช้ได้ 2 เดือน เพราะ ใช้ 1 ชิ้น/คน/วัน ตอนนี้มี ค่าใช้จ่ายเพียงพอในการดูแลรักษา หากระบาดมากต้องของบสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง งบจังหวัด งบจากท้องถิ่น ระยะของเชื้อเมื่อรับเชื้อจะมีระยะฟักตัว 2-10 วัน ถึงจะแสดงอาการป่วย มีไข้ ไอ เจ็บคอ หอบ เหนื่อย เชื้อทำลายปอด คนไข้อาจตาย หรือรอดเมื่อมียาและวัคซีนรักษา เชื้อจะออกจากร่างกายคนไข้โดยจาม ไอ น้ำลาย เป็นเมือกไขมัน เข้าทางจมูก ตาและปาก อัตราการรอดตายขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของแต่ละบุคคล โดยมีอัตราการตาย 3-5% ถ้าหายป่วยแล้วจะมีภูมิต้านทานเชื้อนี้ไม่ป่วยซ้ำ ส่วนยารักษาในบ้านเราจะเป็นสมุนไพรตามหลักการแพทย์แผนไทย เช่นฟ้าทะลายโจร ช่วยลดไข้ เม็ดมะรุมป้องกันเชื้อไวรัส เป็นต้น